22 มีนาคม 2560

: ฉันกลัว...ฉันอาย



ข้าพระองค์ได้ยินเสียงของพระองค์อยู่ในสวนก็กลัว เพราะข้าพระองค์เปลือยกายอยู่ จึงหลบซ่อนตัวเสีย(ปฐมกาล 3:10) 

นี่คือคำตอบของมนุษย์ต่อการเรียกหาจากพระเจ้า การล้มลงของมนุษย์หรือความบาปที่เกิดขึ้นนั้นได้ทำให้สูญเสียตัวตนที่พระเจ้าสร้างมา การสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตย่อมเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวด มนุษย์เริ่มกลัวพระเจ้าเนื่องจากมองตัวเองเปลี่ยนไป ไม่สามารถยอมรับการเปลือยกายของตัวเองได้ มนุษย์รับตัวตนของตัวเองไม่ได้ และเชื่อว่าพระเจ้าพร้อมจะลงโทษ การไม่ยอมรับตัวเองคือการไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ผลกระทบหนึ่งจากการล้มลงหรือจากความบาปคือการอับอายในตัวเอง

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา มนุษย์ตกเป็นทาสของความอับอาย เพราะเชื่อว่าตัวตนของเราเป็นคนที่ "ไม่...พอ" เช่น ไม่สวยพอ ไม่หล่อพอ ไม่เก่งพอ ไม่น่ารักพอ ฯลฯ แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะเติมอะไรเข้าไปในช่องว่าง ซึ่งสุดท้ายก็คือไม่ดีพอที่ควรกับการถูกยอมรับ ถูกให้คุณค่า หรือถูกรัก และถ้าใครมาเจอตัวตนเรา ก็จะเชื่อว่าเราจะโดนปฏิเสธ โดนดูถูก หรืออาจถึงขั้นถูกทำร้าย คำโกหกนี้นำสู่ความกลัวได้หลายอย่าง เช่น กลัวที่จะเปิดตัวเองให้คนอื่น กลัวความใกล้ชิด ยากที่จะไว้ใจคน เป็นต้น ความกลัวที่เกิดจากความอับอายนี้จะพาเราไปหลบซ่อน สุดท้ายก็ต้องหาสิ่งต่างๆจากภายนอกมาปกปิดหรือเติมแต่งเพื่อให้เชื่อว่าเราดีพอ เช่น ด้วยการโกหกบิดเบือนปกปิดความจริง ด้วยการสร้างพื้นที่ให้ตัวเองโดยการหนีจากที่ที่ทำให้เราอายไปยังที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ด้วยการตามกระแสนิยมเพื่อจะได้รับการยอมรับจากหมู่คนทั่วไป และด้วยการเสพติดสิ่งต่างๆที่ทำให้มีความรู้สึกดีต่อตัวเอง อาจเป็นสารเสพติด หรือการงาน หรือเรื่องเพศ หรืองานรับใช้ เป็นต้น บางเวลาก็เชื่อว่าสิ่งที่ถูกนำมาใช้ปกปิดเติมแต่งนั้นคือตัวตนใหม่ของเรา และลืมไปว่ายังอายอยู่ เหมือนที่อาดัมเอาใบไม้ซึ่งเป็นสิ่งที่ชั่วคราวมาปกปิดเติมแต่ง นั่นก็หมายความว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถปกปิดสิ่งที่เราอายในตัวเราได้อย่างถาวร พอถึงเวลาที่หมดค่าเราก็ต้องหามาใหม่ ไม่มีวันจบสิ้น ชีวิตก็วนเวียนอยู่ในวงจรหลบซ่อนเพราะอาย ดังนั้นความอับอายที่ไม่ได้ถูกกำจัดจึงเป็นอารมณ์ที่น่ากลัวเพราะอารมณ์นี้จะกลายเป็นพลังมหาศาลที่ขับเคลื่อนชีวิตและเปลี่ยนชีวิตให้เป็นทาสแทนที่จะมีเสรีภาพเป็นตัวตนที่แท้จริง

เบื้องหลังความกลัวและความอายคือความเจ็บปวดที่เกิดจากความบาปทั้งที่ถูกกระทำและหรือกระทำเอง ความเจ็บปวดที่ไม่ได้รับการรักษาจะก่อเกิดคำโกหกที่ทำให้เราอายต่อตัวเอง การที่จะหลุดจากความอายอย่างสิ้นเชิงสุดท้ายคือการเผชิญกับความเจ็บและมอบให้พระเยซูมารักษาเยียวยา กระบวนการนี้เริ่มจากความรู้สึกที่เบื่อหน่ายและเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากับชีวิตที่หลบซ่อน ยอมมองหาและรับความช่วยเหลือแม้อารมณ์อาจบอกว่า "ฉันไม่เข้าใจว่าจะหลุดได้อย่างไร...และถ้าหลุดแล้วฉันจะเป็นอย่างไร" ช่วงนี้คงเหมือนชาวอิสราเอลหลังจากที่เป็นทาสมา 400 กว่าปี พวกเขาคงยากจะเข้าใจว่าการมีชีวิตที่มีตัวตนนั้นเป็นอย่างไรและคงงงๆว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ความกลัวที่เกิดจากความอายทำให้ยากที่จะไว้ใจคนที่มาช่วย 

ในช่วงเวลาแบบนี้ขอเป็นกำลังใจให้คุณมองหาความรักที่มีให้กับเราโดยเฉพาะที่ไม้กางเขน ที่ซึ่งได้มีการสำแดงและพิสูจน์ความรักที่มีต่อเราทุกคน ความรักที่สมบูรณ์สามารถกำจัดความกลัวออกไปได้ กระบวนการรักษาทั้งหมดทุกขั้นตอนคือการมีความรักจากพระเยซูพาเราเผชิญความเจ็บปวด และทำลายคำโกหก และสุดท้ายมีตัวตนที่แท้จริงจากชีวิตใหม่ คือชีวิตที่มีพระคริสต์ในเรา

(ปฐมกาล3; ยอห์น4:1-24; สดุดี32; โรม 4:25; 5:5; 6:4-7; 1ยอห์น3:16;4:9-10;18)






ไม่มีความคิดเห็น: