12 มีนาคม 2557

: ใครคือเพื่อนบ้าน



ครั้งหนึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านบัญญัตท่านหนึ่งได้ถามพระเยซูว่าเขาต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร์พระเยซูถามกลับว่าบัญญัติได้เขียนไว้ว่าอย่างไรและอ่านได้ว่าอย่างไร เขาตอบว่า"จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอย่างสุดใจ สุดจิต สุดกำลัง และสุดความคิดของท่าน และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง" พระเยซูบอกว่า "ท่านตอบถูกแล้ว จงไปทำเช่นนั้น แล้วท่านจะได้ชีวิต"




ในลก.10:29  ผู้เชี่ยวชาญด้านบัญญัติได้ถามพระเยซูว่า "ใครคือเพื่อนบ้านของผม" เพื่อตอบคำถามนี้ พระเยซูเล่าเรื่องอุปมาในลก.10:30-35 แทนที่พระเยซูจะถามว่าในสามคนนี้ ใครมองผู้ชายที่ถูกปล้นเป็นเพื่อนบ้าน แต่พระเยซูกลับถามว่า "ท่านคิดว่าในสามคนนี้ คนไหนคือเพื่อนบ้านของชายที่ถูกโจรปล้น ?" ผู้เชี่ยวชาญด้านบัญญัติตอบว่า "คนที่เมตตาเขา"แล้วพระเยซูก็บอกเขาว่า"จงไปทำเช่นนั้น"

คำว่า 'เพื่อนบ้าน'ในที่นี้คือคนที่ให้เมตตากับอีกคนหนึ่งที่มีความต้องการหรือตกอยู่ในสภาวะที่แย่และดูเหมือนช่วยตัวเองไม่ได้ ความเป็นเพื่อนบ้านไม่ได้ถูกจำกัดโดยพื้นที่ ความสัมพันธ์ เชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม เวลา ฯลฯ แค่ได้เจอกันหรือรับรู้ว่ามีคนคนนึงกำลังตกยากลำบาก เราก็กลายเป็นเพื่อนบ้านของเขาทันที การให้เมตตาก็ไม่มีขอบเขตเลย ขอบเขตเดืยวที่เห็นก็คือดูแลและมีใจให้อีกฝ่ายหนึ่งอย่างกับเราเป็นเขา

อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรครับ บางคนคงรู้สึกดี .. บางคนอาจรู้สึกเป็นกำลังใจ.. บางคนอ่านแล้วก็อาจรู้สึกถึงความท้าท้ายที่จะมุ่งมั่นเริ่มทำ.. แต่ผมขอให้คุณหยุดคิดหน่อยก่อนที่จะทุ่มกำลังไปทำ 


ให้สังเกตุว่าผู้เชี่ยวชาญด้านบัญญัตินี้เขาเริ่มจากการมองหาว่าเขา "ต้องทำอะไร ? "..เพื่อ ได้ชีวิตนิรันดร์จากคำถามของเขาเราสามารถเข้าใจว่ากรอบความคิดและความเข้าใจของเขาที่ใครคนนึงจะเข้าแผ่นดินพระเจ้านั้นมีอยู่ทางเดียวคือทางบัญญัติ เขาจึงเน้นการ"ทำ"ของตนเอง การสอนของพระเยซูนี้ พระเยซูได้ยกมาตรฐานของบัญญัติขึ้นเหมือนตอนอื่นๆเช่น ให้รักศัตรูแทนที่จะฟันต่อฟันตาต่อตา และให้ควักลูกนัยน์ตาออกถ้าเรามองคนด้วยจิตใจไม่ดี หรือให้เราตัดอวัยวะใดๆทิ้งถ้าอวัยวะนั้นทำบาบ ฯลฯ มาตรฐานใหม่นี้คือเมตตาจากพระเจ้าให้กับผู้ที่วางใจในการกระทำชองตัวเองเพื่อเข้าไปในแผ่นดินพระเจ้า พระเยซูใช้มาตรฐานนี้ผลักพวกเขาไปถึงความจริงที่ว่าไม่มีใครทำตามบัญญัติอย่างสมบูรณ์ได้ ไม่มีใครได้ชีวิตนิรันดร์โดยการกระทำของตัวเอง ในที่สุดคือพระคุณเท่านั้น ก็คือเชื่อในพระเยซูซึ่งเป็นทางเดียวสู่แผ่นดินพระเจ้า และณ ที่นี้เองหน้าที่ของบัญญัติก็สำเร็จอย่างที่เขียนไว้ในกท.3:24 "ดังนั้นบทบัญญัติได้รับมอบหมายหน้าที่ให้นำเรามาถึงพระคริสต์เพื่อเราจะได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ"

เพราะฉะนั้นใครที่ก่อนหน้านี้กำลังคึกจะไป'รักเพื่อนบ้าน' ก็ขอเสนอให้รู้ว่าคุณไม่สามารถทำอย่างสมบูรณ์ได้ และอย่าคิดที่จะเอาการกระทำของตัวเองมาแลกกับพระเจ้า สิ่งหนึ่งที่เราน่าจะทำคือยอมรับว่าที่แท้เราก็ไม่แตกต่างจากผู้ชายที่ถูกปล้นนั้น สภาพของเราสมควรตาย 


แต่พระเยซูรักเรามากจึงให้เมตตาและพระคุณกับเราโดยการเอาชีวิตของเราร่วมกับพระองค์ในความตายบนไม้กางเขน แล้วให้ชีวิตของพระองค์กับเราเมื่อทรงเป็นขึ้นจากความตาย เราจึงมีความหวังที่จะรักตัวเองได้และรักเพื่อนบ้านได้ เพราะพระคริสต์ในเรา และเพราะพระองค์รักเราก่อน ทั้งหมดคือพระคริสต์ทั้งสิ้น ไม่ใช่เราเลย



ไม่มีความคิดเห็น: