4 ตุลาคม 2561

จุดหมายปลายทาง...ที่แท้จริง


ในช่วงที่พระเยซู​มีชีวิตอยู่​นั้น​ ชาวยิวถือพระคัมภีร์​เดิมอย่างเคร่งครัด​โดยเฉพาะ​พวกฟาริสี​ แต่สิ่งที่พระเยซู​กระทำนั้น​ พระเยซู​กลับใช้ชีวิตที่ไม่ได้มีท่าทีเคร่งครัด​และเชื่อฟังตามพระคัมภีร์​แบบชาวยิว เช่น​ รักษา​โรคในวันสะบาโต​ แตะต้อง​คนที่ถือว่า​เป็น​มลทินเลือก​ที่จะ​ไม่ลงโทษ​แต่ให้อภัย​ต่อคนที่ผิดบาป บางเวลาก็อ้างอิง​พระคัมภีร์​แบบไม่ครบถ้วน​ ยิ่งไปกว่านั้น​ใน​มัท​ธิว​บทที่5พระเยซู​แถม​มาเปลี่ยน​พระคัมภีร์​อีก​ ในมัทธิว 5 ก็จะมีคำพูด​ดังนี้​หลายครั้ง​ว่า​ ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า... แต่เราบอกท่านว่า... " ซึ่งแต่ละ​ครั้งพระเยซู​กำลัง​เปลี่ยน​กฎบัญญัติ​ เพราะฉะนั้น​จากการกระทำและคำพูดของพระเยซู​ พระเยซู​กำลัง​แสดงถึงพระองค์​มีสิทธิ์​อำนาจเหนือ​พระคัมภีร์​แม้ว่าพระคัมภีร์​ได้รับการดลใจจากพระเจ้า​ ดูเหมือน​ว่าพระคัมภีร์​ยังต้องสยบ​ต่อพระเยซู​

ถ้างั้น​บทบาทของพระคัมภีร์​ควรจะเป็น​อย่างไร​ ประการ​แรก​คือแน่นอนพระคัมภีร์​ไม่ใช่พระเจ้า​ นั่นก็หมายความ​ว่า​พระเจ้าองค์​เดียวของผู้เชื่อทั่งหลาย​
นั้นคือพระเยซู​ไม่ใช่​พระคัมภีร์​  เราถูก​เรียกให้มาเชื่อฟังและนมัสการพระองค์​ผู้​เดียว​ไม่ใช่พระคัมภีร์​ "มีกายเดียวและพระวิญญาณองค์เดียวเหมือนกับที่ทรงเรียกท่านมาสู่ความหวังเดียวเมื่อทรงเรียกท่าน มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว มีพระเจ้าองค์เดียวผู้ทรงเป็นพระบิดาของทั้งปวง ผู้ทรงอยู่เหนือทั้งมวล ทั่วทั้งสิ้น และในทั้งหมด" เอเฟซัส 4:4-6 

ประการที่สอง ผู้​ที่มีสิทธิ์​อำนาจสูง​สุดคือพระเยซู​ ไม่ใช่พระคัมภีร์​ 

"... สิทธิอำนาจทั้งสิ้นในสวรรค์และในแผ่นดินโลกทรงมอบไว้แก่เราแล้ว..." มัทธิว 28:18

ประการที่สาม "พระคัมภีร์ทุกตอน ได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสั่งสอน การว่ากล่าวตักเตือน การแก้ไขข้อบกพร่อง และการฝึกฝนในความชอบธรรม เพื่อเตรียมคนของ
พระเจ้าให้พรักพร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง" 2ทิโมธี 3:16-17
จากข้อนี้วัตถุประสงค์​หนึ่งของพระคัมภีร์​คือเปรียบ​เหมือน​เป็น​เครื่องมือ​สำคัญ​ในการเตรียมคนให้พร้อมสำหรับ​การดีทุก​อย่าง​

ประการที่สี่​ เราอาจต้องมาเข้าใจว่าหลายๆครั้งคำว่า "พระคำ" "พระวาทะ"​ หรือ​คำใด​ๆที่​ผ่านมาในพระคัมภีร์​ที่เราเข้าใจว่าคือพระคัมภีร์​นั้นโดยเฉพาะ​ที่ได้ถูก​มอบหมาย​ความสำคัญ​เป็น​พิเศษ​ เช่น​
"ขณะที่ท่านยึดมั่นในพระวจนะแห่งชีวิตเพื่อข้าพเจ้าจะอวดได้ในวันแห่งพระคริสต์ว่าข้าพเจ้าไม่ได้วิ่งหรือลงแรงโดยเปล่าประโยชน์​" ฟีลิปปี 2:16
ควรจะหมายถึง​พระเยซู​แทนที่จะเป็น​พระคัมภีร์​ เพราะ​ พระเยซู​ผู้​เดียวที่ให้ชีวิต​ ตาม​พระคัมภีร์​ดัง​นี้
"เราประกาศแก่ท่านถึงพระวาทะแห่งชีวิตซึ่งดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล ซึ่งเราได้ยิน ได้เห็นกับตา ได้พินิจดู และได้สัมผัสด้วยมือของเรา"
1ยอห์น 1:1 TNCV

และ​ "ท่านขยันศึกษา พระคัมภีร์เพราะท่านคิดว่าโดยพระคัมภีร์ท่านจะได้ชีวิตนิรันดร์ พระธรรมเหล่านั้นคือพระคัมภีร์ที่เป็นพยานเกี่ยวกับเรา กระนั้นพวกท่านก็ไม่ยอมมาหาเราเพื่อจะได้ชีวิต​" ยอห์น 5:39-40 TNCV 

ประการที่ห้า​ จากข้อพระคัมภีร์​ที่ว่า​
"ดังนั้นบทบัญญัติได้รับมอบหมายหน้าที่ให้นำเรามาถึงพระคริสต์ เพื่อเราจะได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ"กาลาเทีย 3:24 TNCV
พระคัมภีร์​มีเพื่อเปรียบ​เหมือน​เป็น​ทางผ่านให้ไปถึงพระเยซู​ ไม่ใช่จุดหมาย​ปรายทางของเรา​ พระเยซู​ต่างหาก​ที่เป็น

"ไม่​เคย​มี​ใคร​เห็น​พระเจ้า มี​แต่​พระบุตร​เพียง​องค์​เดียว​ของ​พระองค์ ผู้ที่​เป็น​พระเจ้า​เอง​และ​อยู่​ใกล้​ชิด​กับ​พระบิดา​ด้วย ได้​เปิดเผย​พระเจ้า​ให้​เรา​รู้จัก"ยอห์น 1:18
พระคัมภีร์​ข้อ​นี้​ได้ประกาศ​ว่าไม่มีใครสามารถรู้จัก​พระเจ้าได้เว้นแต่​ว่าคนนั้นได้พบกับพระเยซู​ สอดคล้อง​กับข้อพระคัมภีร์​ที่พระเยซู​เองได้บอกไว้ว่า​
"พระ​เยซู​บอก​ว่า เรา​เป็น​ทาง​นั้น เป็น​ความ​จริง​และ​เป็น​ชีวิต ไม่​มี​ใคร​ไป​ถึง​พระบิดา​ได้​นอก​จาก​มา​ทาง​เรา" ยอห์น 14:6
พระเยซูจึงเปรียบเสมือน​เป็น​จุดหมายปลายทาง​ของเราโดยที่มีพระคัมภีร์​เป็น​สะพาน​ให้เราเชื่อมต่อ​ไปยังเป้าหมาย​เดินทางของเรา​ เพราะ​ฉะนั้น​ให้เราอย่าหลงใหล​หยุดพัก​กับทางผ่านแต่ให้เดินผ่านเพื่อจะชื่นชม​กับจุดหมายปลายทาง​ที่ให้ชีวิตกับเราดีกว่า