3 พฤษภาคม 2559

: ใช้ชีวิตให้ถูกยุค ep 2

วินาทีที่อาดัมกับเอวาเลือกเชื่อมารนั้น ทั้งคู่ได้เลือกปฏิเสธผู้ที่สร้างและให้ชีวิตแก่พวกเขา ...


ปฏิเสธความจริงที่ว่าพวกเขามีค่าเพียงพอ และสุดท้ายคือปฏิเสธความสัมพันธ์กับคุณพ่อแบบที่เคยมี คือความสัมพันธ์แบบเปลือยกาย ไม่มีอะไรปกปิด ไม่มีที่ติ ทุกอย่างดีพอต่อกันและกัน การปฎิเสธนี้เท่ากับมนุษย์ได้ผลักพ่อออกไป แล้วพาตัวเองเข้าสู่ความเป็นศาสนา และมาอยู่ภายใต้มาร เป็นการประกาศว่าตั้งแต่นี้ต่อไปฉันเป็นตัวของฉันเองที่ดีพอได้ด้วยตัวฉันเอง และในเวลาเดียวกันก็ได้ปฎิเสธทุกอย่างที่พ่อได้ให้มาอย่างฟรีๆ มากไปกว่านั้นอีก คือมนุษย์ได้หันไปยอมต่อมารผู้ที่ไม่ได้ให้อะไรหรือทำอะไรดีๆให้กับมนุษย์เลย และยังเป็นผู้ที่มาแย่งความเป็นพ่อจากพระเจ้าอีกด้วย


ความรู้สึกของพ่อที่โดนปฎิเสธนี้คงเหมือนกับการถูกหักหลังจากเพื่อนสนิท เหมือนบางอย่างที่สำคัญและมีความหมายมากมายในชีวิตได้หายไป เหมือนถูกทอดทิ้งโดยไม่มีเยื่อใย หรือจะเหมือนเวลาที่ยูดาสจุมพิษพระเยซูก่อนที่เขาเดินไปขายพระเยซูหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางความเจ็บปวดนี้สิ่งหนึ่งได้เกิดขึ้นในสวนเอเดน นั่นคือ ทั้งๆที่พ่อรู้ว่าลูกได้ปฎิเสธพ่อและได้มองพ่อเปลี่ยนไป พ่อยังเลือกที่จะเป็นผู้เข้าหาลูกก่อน พ่อเดินเข้าไปในสวนเพื่อเรียกหาลูก จากนั้นพ่อก็เปิดโอกาส รอให้ลูกตอบสนอง แต่ลูกก็ยังเชื่อว่าตัวเองไม่ดีพอสำหรับพ่อ จนไม่กล้าออกมาหาเพราะกลัวพ่อรับเขาไม่ได้ ณ เวลานั้นหัวอกพ่อก็อดไม่ได้ที่ถามลูกว่า "ใครบอกว่าลูกเปลือยกาย" ซึ่งก็เหมือนกับถามว่า "ใครบอกว่าลูกไม่ดีพอ - ถึงขั้นกลัวพ่อแล้วไม่กล้าเข้ามาหาพ่อเลย" เวลานั้นหัวอกพ่อคนนี้คงแตกสลายและเจ็บปวดยิ่งนักทั้งจากการถูกปฏิเสธและความเจ็บปวดแทนลูกเมื่อเห็นเขาตกอยู่ในความทุกข์  สิ่งมหัศจรรย์คือพ่อคนนี้ยังเอาความเจ็บปวดที่ถูกปฏิเสธเป็นรอง แต่เลือกที่จะดำเนินแผนเพื่อช่วยลูกให้หลุดจากมาร เพื่อวันหนึ่งลูกจะหันกลับบ้านคือเปิดใจให้พ่อเข้ามาอยู่ด้วย 

ตลอดเวลาจากการล้มลงของมนุษย์นั้นพ่อไม่เคยทิ้งลูก มีแต่อดทนรอ ให้เสรีภาพที่จะเลือก มีแต่มาพูด มาเตือน มาช่วย มาคลุกคลีในสภาพที่ลูกเป็นอยู่ มาทำสัญญากับลูกในแบบที่ลูกรับได้ซึ่งก็เพื่อช่วยให้ลูกรู้ว่าลูกทำด้วยตัวเองไม่ได้ และสุดท้ายเพื่อลูกจะพร้อมรับสัญญาใหม่ที่พ่อเตรียมไว้ให้เป็นทางกลับบ้าน เพราะสัญญาใหม่นี้จะไม่ขึ้นกับการกระทำของลูกเลย แต่ล้วนเป็นการช่วยเหลือของพ่อผ่านความเชื่อของลูกเท่านั้น การกระทำของพ่อทั้งหมดนี้สะท้อนอย่างชัดเจนถึงคำว่า "ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข" เพราะในขณะที่ลูกเลือกปฎิเสธพ่อๆก็ยังรักและให้เสรีภาพ ความรักของพ่อแบบนี้เป็นความรักที่ไม่อาจเรียกร้องอะไรได้เลย จึงถือว่าเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข 



โดยการตายและเป็นขึ้นของพระเยซู พ่อได้เริ่มพันธสัญญาใหม่กับเราเพื่อให้เป็นทางกลับบ้านของเรา เพราะฉะนั้นให้เราที่เป็นผู้เชื่อมั่นใจได้ว่าพ่อรักเราตลอดด้วย"ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข"  และไม่ต้องสงสัยหรือสับสนว่าเราดีพอที่พ่อยังจะรักเราหรือไม่ โดยเฉพาะในเวลาที่เราไม่สามารถรักตัวเองได้ เพราะความรักที่ไม่มีเงื่อนไข คือ พระคุณ ไม่ได้ขึ้นกับการกระทำของเรา นี่แหละคือพันธสัญญาใหม่.......... 


ขอบคุณครับพ่อ !!




ไม่มีความคิดเห็น: