5 เมษายน 2559

:ไม่รู้จักที่อยู่พ่อ.. จะไปได้อย่างไร?


ก่อนพระเยซูถูกตรึงบนกางขน พระเยซูได้ใช้โอกาสใน ยอห์น บทที่14 บอกกับเหล่าสาวกว่าพระเยซูกำลังไปที่บ้านของพระบิดา หรือ พ่อ และพระเยซูบอกด้วยว่าพระองค์ไปเพื่อเตรียมที่ให้กับสาวก แล้วสิ่งสำคัญคือพระองค์จะกลับมารับพวกเขาไปอยู่ด้วย ที่น่าสนใจมากคือที่พระเยซูทึกทักว่าเหล่าสาวกเข้าใจและรู้ว่าพระเยซูกำลังไปไหน และไปด้วยทางไหน โธมัสจึงต้องพูดออกมาว่า “พระองค์เจ้าข้า พวกข้าพระองค์ไม่รู้ว่าพระองค์จะเสด็จไปที่ไหน ดังนั้นพวกข้าพระองค์จะรู้จักทางนั้นได้อย่างไร?” ถ้าพูดกันตรงๆก็คือไม่รู้จักที่อยู่ของบ้านพ่อ แล้วจะไปได้อย่างไร คำตอบของพระเยซูที่ตามมายิ่งทำให้การสนทนานี้น่าสนใจยิ่งขึ้น พระเยซูตอบว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา" ก่อนหน้านี้ไม่ใช่พูดถึงบ้านพ่อเหรอ แต่แล้วพอถามเข้าจริงๆ ทำไมกลายเป็นไม่ใช่สถานที่จะไป แต่เป็นบุคคลคือพ่อต่างหากที่จะไปหา 

หลายครั้งจากยอห์นบทนี้ เราต่างเข้าใจว่าสวรรค์คือที่พระเยซูจะมารับเราไป และบนสวรรค์ผู้เชื่อทุกคนมีบ้านที่พระบิดาเตรียมให้กับเรา และบางครั้งเรายังพูดคุยสนุกว่าใครทำอะไรให้พระเจ้าเยอะก็จะมีบ้านใหญ่กว่าเป็นพิเศษ ถ้ามาหยุดคิดก็น่าคิดว่าการมีบ้านบนสวรรค์มันสำคัญมากไหม ซึ่งในพระคัมภีร์ก็ไม่มีพูดถึงเลย มีแต่ว่าในสวรรค์นั้นเราต่างตกอยู่ในความสวยงามของพระบิดาแบบหน้าต่อหน้า และตลอดเวลาเรามีแต่การนมัสการและสรรเสริญ เพราะที่นั้นเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ถ้ามีบ้านก็ไม่ต้องมีรั้วกั้น และในความเป็นลูกของพระเจ้า เราจะร่วมครอบครองกับคุณพ่อด้วยกัน

จากคำพูดของพระเยซูเองก็ได้พูดชัดมากคือพระเยซูกำลังไปหาคุณพ่อ แล้วพระเยซูก็พูดถึงข้างหน้าว่าเหล่าสาวกจะทำสิ่งที่พระเยซูทำอยู่และจะทำการใหญ่ยิ่งกว่าพระเยซู (ยอห์น 14:12) ซึ่งแน่นอนที่นี่ไม่ได้หมายถึงสวรรค์ เพราะบนสวรรค์เราไม่ต้องทำอะไรยิ่งใหญ่อีกแล้ว ยอห์น 14:18-20 "เราจะไม่ทิ้งพวกท่านให้เป็นลูกกำพร้า เราจะมาหาพวกท่าน อีกไม่นานนักโลกก็จะไม่ได้เห็นเราอีกแต่พวกท่านจะเห็นเรา เพราะเรามีชีวิตอยู่ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตอยู่ด้วย ในวันนั้นพวกท่านจะตระหนักว่าเราอยู่ในพระบิดาของเราและพวกท่านอยู่ในเราและเราอยู่ในพวกท่าน" อีกครั้งหนึ่งที่ย้ำว่าไม่ใช่สวรรค์ แต่เป็นเวลาของเราที่อยู่บนโลกนี้ต่างหาก เพราะตรงนี้ยังพูดถึงว่าเรายังอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่สาวกบนโลกนี้ ฉะนั้นที่พระคัมภีร์พูดถึง 'ในวันนั้น' ที่พระเยซูจะอยู่ในเรา และเราอยู่ในพระเยซูนั้น คือช่วงเวลาหลังจากเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซูที่ทำให้เราอยู่ในสถานภาพอย่างนั้นได้ และเป็นเพราะพระเยซูที่อยู่ในเรา เราจึงอยู่กับพ่อได้อย่างพระเยซู เพราะฉะนั้นวันนี้เราได้อยู่กับพ่อแล้ว ชีวิตนิรันดร์ได้เริ่มตั้งแต่วินาทีที่เราเชื่อ ยอห์น 17:3 นี่แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือที่เขารู้จักพระองค์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้แต่องค์เดียว และรู้จักพระเยซูคริสต์ผู้ซึ่งพระองค์ทรงส่งมา 

บ้านที่แท้จริงไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นความผูกพันโดยเฉพาะกับคุณพ่อ การผูกพันนั้นบอกว่าเรามาจากไหน และเราเป็นใคร การตายและการเป็นขึ้นของพระเยซูได้ให้มนุษย์ทุกคนกลับบ้านได้และเป็นสุข

ไม่มีความคิดเห็น: