21 กรกฎาคม 2559

: อะไรช่วยให้คริสตจักรเติบโต


จากเอเฟซัส 4:11,12 "พระองค์เองทรงให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ เพื่อเตรียมประชากรของพระเจ้าสำหรับงานรับใช้ เพื่อว่าพระกายของพระคริสต์จะได้รับการเสริมสร้างขึ้น"

นี่เป็นพระคัมภีร์ที่คนทั่วไปเข้าใจกันว่าพระเจ้าได้ให้ 5 "ตำแหน่ง" สำคัญในโบสถ์เพื่อช่วยให้คริสตจักรเติบโตขึ้น แต่นอกเหนือกจาก 5 ตำแหน่ง หรือ ขอใช้คำว่า”หน้าที่”นี้แล้ว จากพระคัมภีร์ โรม 12:4-8 ที่เกี่ยวกับของประทานก็ได้พูดถึงหน้าที่หรือตำแหน่งอื่นๆด้วย เช่น การเผยพระวจนะ การสั่งสอน การปรนนิบัติรับใช้ การให้กำลังใจ การช่วยเหลือในสิ่งที่ผู้อื่นขัดสน ฯลฯ ซึ่งทุกหน้าที่บทบาทล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือ "เพื่อเตรียมประชากรของพระเจ้าสำหรับงานรับใช้ เพื่อว่าพระกายของพระคริสต์จะได้รับการเสริมสร้างขึ้น" 
การมีตำแหน่งก็มีข้อดีในเวลาที่เหมาะสม เช่น ในคริสตจักรบางทีก็พูดถึงตำแหน่ง เช่น "ผู้นำนมัสการ" หรือ "ผู้นำประชุม" หรือ “ผู้เทศนาแบ่งปัน" เพื่อการชัดเจนในการรับผิดชอบ ซึ่งผู้ที่อยู่ในแต่ละตำแหน่งเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทและเวลา บางคนอาจอยู่ในตำแหน่งนานโดยไม่มีการผลัดเปลี่ยน 

คำถามสำคัญคือ อะไรเป็นตัวตัดสินใจว่าเราควรให้ตำแหน่งกับใครในเวลาไหน ในโรม 12:4-8 จะพูดเสมอว่า "...ถ้าผู้ใดมีของประทานด้าน..." นั่นชี้ถึงว่าคนที่มีของประทานน่าจะมีวิถีชีวิตที่แสดงบทบาทหรือหน้าที่ของของประทานนั้นออกมาจนคนอื่นๆเห็นได้ จากนั้นพระคัมภีร์ได้พูดต่อว่า "...ก็ให้ผู้นั้นใช้ของประทานนี้..." คำว่า "ก็ให้" หมายถึงหลังจากรู้ว่าใครมีของประทานแล้ว ก็ให้คริสตจักรยอมรับคนนั้น(อาจด้วยตำแหน่ง)และสนับสนุนให้ทำหน้าที่หรือบทบาทให้เต็มที่ นอกจากความสามารถแล้ว 

อีกสิ่งหนึ่งที่คริสตจักรต้องคำนึงก่อนให้การยอมรับหน้าที่เขา คือสภาพหัวใจของเขาที่พระคัมภีร์ได้พูดไว้ใน โรม 12:9-10 คือมีหัวใจที่รักพี่น้องด้วยใจจริง หรือแบบง่ายๆคือใส่ใจพี่น้อง ฉะนั้นในทางตรงข้ามถ้าเขาไม่ได้แสดงหรือใช้ของประทานเป็นวิถีชีวิต และหรือ สภาพหัวใจมีปัญหาที่จะรักพี่น้อง คงต้องมาช่วยคนๆนั้นและหวังว่าคนนั้นจะยอมรับและขอความช่วยเหลือให้หลุดจากสภาพเพื่อเขาจะสามารถทำหน้าที่ได้ดีอีกครั้งหนึ่ง แต่บางครั้งหากจำเป็นก็อาจจะต้องให้เขาหยุดบทบาทของเขาเพื่อเหตุผลต่างๆ เช่น เพื่อการรักษาเยียวยา เพื่อมีเวลาพักผ่อน ฯลฯ


ของประทานฯทั้งหมดเห็นได้ว่าเป็นของประทานที่ทั้งช่วยให้คริสตจักรดูแลสร้างสาวกผู้เชื่อ และนำข่าวดีออกไป ตามมัทธิว 28:19-20 "ดังนั้นจงไปสร้างสาวกจากมวลประชาชาติ ให้เขารับบัพติศมาใน พระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ สอนเขาให้เชื่อฟังทุกสิ่งที่เราสั่งพวกท่านไว้ และแน่นอน เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไปตราบจนสิ้นยุค" คริสตจักรเป็นตัวแทนของพระเจ้าบนโลก ชีวิตที่เรามีพระคริสต์อยู่ในเราควรเป็นชีวิตที่นำข่าวดีหรือการครอบครองของพระเจ้าไปสู่คนทั้งหลาย หน้าที่การ"เผยแพร่ข่าวประเสริฐ" และ การ"เป็นอัครทูต" (การส่งคนออกไปเผยแพร่ข่าวประเสริฐ) จึงเป็นหน้าที่หรือบทบาทที่สำคัญ เพราะสองหน้าที่นี้นำคนมาในครอบครัวของพระเจ้า แล้วหน้าที่อื่นๆค่อยตามมาภายหลัง 

พระคัมภีร์ได้พูดชัดมากว่าการให้คนเล่นบทบาทหรือทำหน้าที่ตามของประทานเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขยายแผ่นดินพระเจ้าบนโลกผ่านคริสตจักร ข่าวดีคือพระเจ้าได้ให้ของประทานกับคริสตจักรแล้ว สิ่งที่เราสามารถตอบสนองได้คือเชื่อว่าเราทุกคนสามารถเล่นบทบาทหรือทำหน้าที่ที่ช่วยให้คริสตจักรเติบโตได้  ไม่ใช่แค่คนบางคนเท่านั้นที่มีส่วน จากนั้นก็ให้เราสนใจคนอื่นๆทั้งในและนอกคริสตจักรเพื่อที่เราจะช่วยเหลือเขาได้ในเวลาที่เขาต้องการ จากการใช้ชีวิตอย่างนี้ให้เป็นวิถีชีวิต ของประทานเราก็จะเด่นชัดขึ้นเอง  





ไม่มีความคิดเห็น: