4 กุมภาพันธ์ 2559

: ตัวตนเราสำคัญ EP6


อีกครั้งหนึ่งมารนำพระองค์มายังภูเขาที่สูงมาก แล้วแสดงอาณาจักรทั้งปวงของโลกกับความโอ่อ่าตระการของอาณาจักรเหล่านั้นให้พระองค์ทอดพระเนตร แล้วทูลว่า ทั้งหมดนี้เราจะยกให้ท่านหากท่านกราบนมัสการเรา” 

การทดลองครั้งสุดท้ายของมาร มารเอา 'อาณาจักรทั้งปวงของโลกกับความโอ่อ่าตระการของอาณาจักรเหล่านั้น'มาแลกกับการให้พระเยซูมานมัสการ การยอมนมัสการใครบางคนหรือสิ่งใดนั้น คนที่นมัสการก็คือยอมเอาตัวเองมาอยู่ภายใต้สิ่งนั้น หรือพูดอีกด้านหนึ่งคือยอมให้อีกฝ่ายหนึ่งมาครอบครองเรา และการที่เรายอมให้ใครมาครอบครองเรา ก็เท่ากับเรากำลังเอาตัวตนของเราไปขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรานมัสการ สิ่งนั้นจะเป็นตัวกำหนดเรา (สดุดี 115:8 " ผู้ที่สร้างพวกมันก็จะเป็นเหมือนพวกมัน และผู้ที่วางใจในพวกมันก็จะเป็นเหมือนกัน ") 

ในมุมของพระเจ้าการนมัสการคือการตอบสนอง หรือเป็นสิ่งสมควรจากเราต่อพระคุณและความรักที่พระเจ้าได้ให้กับเรา โดยการมอบชีวิตของเราและตัวตนของเราให้กับพระเจ้า การนมัสการจึงไม่ใช่อยู่บนพื้นฐานของการแลกเปลี่ยน แต่อยู่บนพระคุณต่างหาก สิ่งที่สำคัญคือถ้าพระเยซูเลือกที่จะนมัสการมารเพราะเชื่อว่าคุณค่าของพระองค์หรือสิ่งที่กำหนดตัวตนขึ้นอยู่กับการได้เป็นเจ้าของอาณาจักรและความโอ่อ่าตระการ พระเยซูก็จะล้มลงอย่างอาดัมคนแรก แต่สรรเสริญพระเจ้าเถิด พระเยซูรู้ว่าตัวตนของพระองค์มีค่าอยู่แล้ว จากการที่พระบิดาได้ประกาศไว้เมื่อพระเยซูรับบัพติศมาว่า "นี่เป็นลูกของเรา ผู้ที่เรารัก เราพอใจเขายิ่งนัก " การเป็นลูกรักของพระบิดาคือตัวตนที่มีค่าที่สุดที่คนคนหนึ่งจะมีได้

มารเอาอาณาจักรและความโอ่อ่าตระการของอาณาจักรมาเป็นตัวล่อ หลายคร้ังมนุษย์ชอบมองหาความโอ่อ่าตระการ และเชื่อว่าความโอ่อ่าคือตัวบ่งบอกถึงความสำเร็จ หรือความยิ่งใหญ่ ส่วนอาณาจักรก็หมายถึงพลังอำนาจความรุ่งเรือง ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์เชื่อว่าการได้มันมาจะทำให้เรามีค่าและเป็นคนสำคัญ ถึงขั้นที่ยอมเอาทั้งชีวิตมาวิ่งตามหาเพื่อให้ได้มันมา แต่มาตรฐานการวัดคุณค่าตัวตนของเราแบบนี้ช่างแตกต่างจากพระเจ้าเหลือเกิน แม้พระเยซูเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ แต่ก็ยังเลือกเกิดในรางหญ้าแทนการเกิดในวังอันโอ่อ่าตระการ แม้พระเยซูเป็นนายเหนือนาย แต่ก็เลือกมาล้างเท้าสาวก มาปรนนิบัติแทนการรับการปรนนิบัติ มาให้ชีวิตออกไปเป็นเครื่องสังเวยแทนการเรียกร้องจากมนุษย์ มาจากสวรรค์ลงมาบนโลกนี้ มาให้ความรักแทนที่จะมาพิพากษา แทนที่จะถูกเรียกว่าเป็นเพื่อนกับคนสำคัญในสังคม แต่มาเป็นเพื่อนกับคนบาป แทนที่จะมาหาคนชอบธรรม แต่มาหาคนเจ็บป่วยที่ต้องการหมอ และมาตายแทนคนบาปบนไม้กางเขน ชีวิตของพระเยซูที่ดำเนินออกมาจากตัวตนที่เป็นลูกของพระเจ้านั้น เป็นชีวิตที่อุทิศเพื่อมาช่วยกู้มนุษย์ออกจากการครอบครองของมาร กลับสู่พระบิดา และหลุดจากผลของอาดัมคนแรก 


เพราะฉะนั้น การรู้จักตัวตนที่แท้จริงในพระเจ้านั้นจึงเป็นพลังมหาศาลที่ขับเคลื่อนชีวิตของเรา ช่วยทำให้เราสามารถมีชีวิตแบบพระเยซูได้เหมือนที่พระคัมภีร์กล่าวว่า ความจริงทำให้เราเป็นไท ในขณะที่เราเชื่อในความจริงที่ว่าเราเป็นใครในพระคริสต์นั้น ความจริงนี้จะปลดปล่อยเราเข้าสู่ชีวิตที่สมบูรณ์และบริบูรณ์ตามที่พระองค์ทรงสัญญาไว้


1 ความคิดเห็น: